การนวดเพื่อบำบัดอาการปวดประจำเดือน

“..เมนส์มาทีไร ใจจะขาดทุกที…” อาการปวดท้องประจำเดือน ยังสามารถบำบัดด้วยศาสตร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ ที่เราเรียกว่าการแพทย์องค์รวมอีกด้วย ได้แก่

• การรักษาด้วยธรรมชาติบำบัด คือ การจัดการตารางชีวิตประจำวัน เริ่มต้นจากเมนูอาหาร ลดเนื้อสัตว์ เพิ่มผัก ผลไม้ ให้มากขึ้น โดยเน้นแมกนีเซียม และโพแทสเซียม  ปรับเปลี่ยนกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน รวมไปถึง การล้างพิษเพื่อกำจัดฮอร์โมนส่วนเกินออกไป
• การฝังเข็ม มีฤทธิ์ช่วยปรับฮอร์โมนเพศภายในร่างกายให้เข้าสู่ความสมดุล กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และลดการบีบตัวของมดลูก ทำให้บางรายหายปวดได้ปกติทันทีหลังการรักษา รวมไปถึงการขอคำแนะนำจากแพทย์แผนจีน
• การใช้รัตนชาติบำบัด หรือเรียกว่า blood stone คือการบำบัดแบบภูมิปัญญาอิยิปต์โบราณ โดยนำหินหยดเลือด  มาวางบนหน้าท้อง แล้วอาการปวดประจำเดือนก็จะหายไป รวมไปถึงการรักษาอาการต่างๆ อีกด้วย
• การจิบชาสมุนไพรร้อน ได้แก่ ชาเปปเปอร์มินต์ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบรรเทาอาการปวด , น้ำผึ้งผสมมะนาว บำรุงเลือด ลดอาการท้องเสีย ปวดท้อง และต้านการอักเสบ , ชาเขียว บรรเทาอาการปวด, ชาคาโมไมล์ ลดอาการปวด ลดการอักเสบ, น้ำขิง กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลม ลดอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ , นมอุ่นๆ เพิ่มแคลเซียม และผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
• การฝึกโยคะ เพื่อยืดเหยียดกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ให้เกิดความยืดหยุ่น ในท่าต่างๆ ของโยคะช่วยกระตุ้นระบบประสาท ระบบการหมุนเวียนขอลเลือด และระบบการเผาผลาญ รวมถึงช่วยขับของเสียในต่อมน้ำเหลืองอีกด้วย ส่งผลให้ความรู้สึกไม่สบายเนื้อตัว และอาการปวดบรรเทาลง

อีกหนึ่งภูมิปัญญาที่ได้รับความนิยมมาก คือ ศาสตร์การนวด โดยมีการนวดเพื่อการบำบัดด้วยกันหลายแบบ

• การนวดด้วยน้ำมันหอมระเหยบำบัด Aromatherapy เช่น น้ำมันจากดอกกระดังงา คาโมไมล์ เจอเรเนียม กระเพรา ลาเวนเอร์ เป็นต้น  โดยเจือจางในน้ำมันตัวกลาง (Carrier oil) เช่น น้ำในมะกอก น้ำมันอัลมอนด์ นำมันมะพร้าว น้ำมันโจโจบา  ซึ่งสามารถนวดด้วยตัวเองได้ตามจุดสำคัญ ที่ กล้ามเนื้อหลังกล้ามเนื้อบริเวณท้องน้อยที่ขนานกับกระดูกเชิงกรานกล้ามเนื้อท้องน้อยส่วนที่อยู่ต่ำกว่าสะดือ กล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้าและหลัง น่อง ข้อเท้าบริเวณเอ็นร้อยหวาย , นวดบริเวณหัวนม เพื่อทำให้ฮอร์โมนออกซิโทนหลั่งออกจากสมอง ส่งผลให้มดลูกบีบตัวไล่เลือดประจำเดือนได้ดีขึ้น บรรเทาอาการปวดลงได้
• การนวดไทย ที่มีทั้งแบบราชสำนัก และเชลยศักดิ์ ซึ่งควรนวดก่อนมีประจำเดือน เพราะนวดแบบไทยจะเป็นการนวดที่มีน้ำหนักมือพอสมควร  เพื่อกระจายเลือดให้เดินสะดวก แต่กรณีที่จำเป็นจะต้องนวดขณะมีประจำเดือนเพื่อลดอาการปวดนั้น  ควรนวดเฉพาะจุด ที่แนวขา ต้นขา เหนือตาตุ่ม แถวเชิงกราน แต่ไม่ควรนวดลงไปบนท้องโดยตรง และ การแช่เท้าในน้ำอุ่นจัดผสมเกลือ หรือสมุนไพร เพื่อช่วยผ่อนคลาย และกดจุดสำคัญ ซึ่งสามารถนำน้ำมันหอมระเหย น้ำมันสมุนไพร หรือน้ำมันหม่องมาใช้ร่วมด้วยได้
• การนวดแบบชิอัตสึ (Shiatsu) แบบญี่ปุ่นนั้น เป็นศาสตร์การพัฒนามาจากจีน ช่วยปรับสมดุลธาตุ เพื่อลดอาการบาดเจ็บ และคลายความเครียดได้
• การนวดบำบัดสวีดิช  (Swedish massage) เป็นศาสตร์การนวดที่มีตั้งแต่ยุคโรมัน ได้รับความนิยมมากในแถบยุโรป นวดบำบัดแบบคลาสสิค ไม่รุนแรง ผ่อนคลายกล้ามเนื้อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและปรับสมดุลฟื้นฟูเซลล์ในร่างกาย ลดอาการปวดบวมของกล้ามเนื้อ เร่งการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ฟื้นฟูเซลล์ร่างกาย เน้นนวดไปตามทิศทางการไหลเวียนของเลือดและระบบน้ำเหลืองตามหลักกายภาพบำบัด บนพื้นฐานทางการแพทย์แผนตะวันตก

มีหลายศาสตร์ให้เลือกมากมายขนาดนี้ รับรองว่าพบกันในเดือนถัดไป ก็คงจะบอกลาอาการปวดท้องไปได้เลย